การเลี้ยงไก่พม่า
เทคนิคการเลี้ยงไก่สายเลือดพม่านั้น เป็น ที่ยอมรับกันในทุกวันนี้ว่า ไก่ที่เลี้ยงออกชนกันตามสนามต่างๆ ทั่ว ประเทศ เป็นไก่ลูกผสมและมีสายเลือดไก่พม่าเกิน 50 %ด้วยกัน ส่วนจะมีเลือดพม่ามากแค่ไหนนั้น บ้างน้อยบ้างมากก็แล้วแต่สูตรของใครของมันว่ากันไป บางคนก็มีสายเลือดพม่าเกิน 50%ขึ้นไปซึ่งส่วนมากจะเก่ง บางคนต่ำกว่า 50 %ลงมา การเลี้ยงไก่พม่าบางตัวก็ดูไม่รู้ว่าเป็นไก่ไทยแท้หรือลูกผสมกันแน่ ไก่พม่าหรือไก่สายเลือดพม่าเดิมทีก็เล่นกันทางภาคเหนือของประเทศ ไทยซะเป็นส่วนใหญ่ เท่าที่ผมรู้เขาเลี้ยงกันไม่นาน ปล้ำ 2-3 ครั้งก็นำออกชนกันแล้ว ไม่ปล้ำมากอันเพราะจะทำให้ไก่ซ้ำ เหมือนการเลี้ยงไก่ทางภาคกลาง กว่าจะออกชนต้องปล้ำไม่น้อยกว่า 8-9 อันขึ้น การเลี้ยงไก่พม่าทางภาคเหนือเขาเลี้ยงกันไม่นานก็ออกชน กะให้แข็งในสังเวียน พอตีไปได้1-2 เที่ยว ไก่ก็เริ่มแข็งและตีราคาแพงได้ ดังนั้นการเลี้ยงไก่พม่าหนุ่มๆ จึงมีสถิติชนะหลายไฟท์ติดต่อกัน เท่า ที่สอบถามคนเลี้ยงไก่พม่าดู เขาบอกว่าถ้าเลี้ยงนานหรือปล้ำมากมันจะ กรอบ ยิ่งฟิตซ้อมหนักจะทำให้ เนื้อตัวของมันตึง ไม่ค่อยตีไก่ ซึ่งตอนแรกๆ ผมก็ไม่เชื่อ แต่จากการเลี้ยงไก่พม่ามาหลายตัว ปรากฏว่าไก่พม่า ตัวที่มีฝีตีนดีๆ พอฟิตจัดเข้ามันจะไม่ค่อยตีไก่ พอปล่อยให้เดินกรง เล่นฝุ่นเล่นดิน จับมาปล้ำใหม่ ปรากฏว่ากลับ ตีดีเหมือนเดิม ซึ่งผมได้ทดลองหลายครั้งหลายตัวก็มีผลคล้ายกัน ดังนั้นเทคนิคการเลี้ยงไก่พม่า ควรทำดังนี้
1. การออกกำลังกาย ควรให้ปฏิบัติดังนี้ - บินกล่อง - วิ่งสุ่ม - ปล่อยกรงกว้างๆ และมีคอนให้บิน แต่อย่าให้สูงมากนัก
2. การลงนวม ต้องดูนิสัยไก่ บางตัวไม่ชอบและไม่ควรลงนวมบ่อย ให้เหมาะสมควร 7-10 วันต่อครั้ง
3. การล่อ ต้องดูนิสัยไก่ หากไม่จำเป็นจริงๆ เช่นออกกำลังโดยวิธีอื่นไม่เอา จึงค่อยใช้วิธีล่อ เพราะไก่พม่า ไม่ชอบให้คู่ต่อสู้อยู่สูงกว่า
4. การลงขมิ้น หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรลง อาจจะลงครั้งแรกทั้งตัวสัก 1 ครั้ง ก็น่าจะพอ หลังจากนั้น หากยังอยากลงก็ควรทาเฉพาะใบหน้าและหน้าอกก็พอ นอกจากนี้มีข้อควรจำสำหรับการเลี้ยงไก่พม่า หรือไก่ที่มีสายเลือดพม่าตั้งแต่ 50 % ขึ้นไปคือ 1. อย่าปล้ำหรือลงนวมกับคู่ต่อสู้ที่เป็นไก่ถ่าย เพราะหากมันถูกตีเจ็บมันจะเข็ดและพาลดีดไก่ไปเลย 2. อย่าปล้ำหรือซ้อมคู่มากเกินไป 5-6 ยก ก็น่าจะพอ โดยครั้งแรกหาคู่ต่อสู้ใหม่ๆ เหมือนกัน ผิวพรรณดีกว่า อย่าหาญตี มิฉะนั้นอาจต้องมานั่งเสียใจ 3. ไก่พม่า ถ้าหัวปีกเริ่มโรย หรือขนปีกเคลื่อนขยายหรือเริ่มถ่าย หรือขนหมดมัน ไม่ควรนำออกตี เพราะมันจะอยู่ในช่วงเริ่มหลุดถ่าย ใจน้อย และหนีง่าย
4. ไก่พม่า เวลาซ้อมหากเจอคู่ต่อสู้ตีตัว ตีเข้าหน้าอุดสามเหลี่ยมและหนอกคอ ควรรีบจับยอม มิฉะนั้นคราวต่อไปมันจะเข็ดและดีดไก่ เพราะแผลฝาก
5. การเล่นไก่พม่า ควรเล่นในช่วงที่มันกำลังสดและมีอายุชนขวบแล้วดีที่สุด เพราะจิตใจมันจะ มั่นคงกว่าตอนที่เป็นหนุ่ม 8-9 เดือน
ไก่พม่าหลักๆก็มีเท่านี้แหละครับ
|
ลักษณะไก่พม่า
เป็นไก่ถ่าย เพราะหากมันถูกตีเจ็บมันจะเข็ดและพาลดีดไก่ไปเลย 2. อย่าปล้ำหรือซ้อมคู่มากเกินไป 5-6 ยก ก็น่าจะพอ โดยครั้งแรกหาคู่ต่อสู้ใหม่ๆ เหมือนกัน ผิวพรรณดีกว่า อย่าหาญตี มิฉะนั้นอาจต้องมานั่งเสียใจ 3. ไก่พม่า ถ้าหัวปีกเริ่มโรย หรือขนปีกเคลื่อนขยายหรือเริ่มถ่าย หรือขนหมดมัน ไม่ควรนำออกตี เพราะมันจะอยู่ในช่วงเริ่มหลุดถ่าย ใจน้อย และหนีง่าย
4. ไก่พม่า เวลาซ้อมหากเจอคู่ต่อสู้ตีตัว ตีเข้าหน้าอุดสามเหลี่ยมและหนอกคอ ควรรีบจับยอม มิฉะนั้นคราวต่อไปมันจะเข็ดและดีดไก่ เพราะแผลฝาก
5. การเล่นไก่พม่า ควรเล่นในช่วงที่มันกำลังสดและมีอายุชนขวบแล้วดีที่สุด เพราะจิตใจมันจะ มั่นคงกว่าตอนที่เป็นหนุ่ม 8-9 เดือน
ไก่พม่าหลักๆก็มีเท่านี้แหละครับ
|
เป็นไก่ถ่าย เพราะหากมันถูกตีเจ็บมันจะเข็ดและพาลดีดไก่ไปเลย 2. อย่าปล้ำหรือซ้อมคู่มากเกินไป 5-6 ยก ก็น่าจะพอ โดยครั้งแรกหาคู่ต่อสู้ใหม่ๆ เหมือนกัน ผิวพรรณดีกว่า อย่าหาญตี มิฉะนั้นอาจต้องมานั่งเสียใจ 3. ไก่พม่า ถ้าหัวปีกเริ่มโรย หรือขนปีกเคลื่อนขยายหรือเริ่มถ่าย หรือขนหมดมัน ไม่ควรนำออกตี เพราะมันจะอยู่ในช่วงเริ่มหลุดถ่าย ใจน้อย และหนีง่าย
4. ไก่พม่า เวลาซ้อมหากเจอคู่ต่อสู้ตีตัว ตีเข้าหน้าอุดสามเหลี่ยมและหนอกคอ ควรรีบจับยอม มิฉะนั้นคราวต่อไปมันจะเข็ดและดีดไก่ เพราะแผลฝาก
5. การเล่นไก่พม่า ควรเล่นในช่วงที่มันกำลังสดและมีอายุชนขวบแล้วดีที่สุด เพราะจิตใจมันจะ มั่นคงกว่าตอนที่เป็นหนุ่ม 8-9 เดือน
ไก่พม่าหลักๆก็มีเท่านี้แหละครับ
|
เกล็ดแข้ง ตามปกติลักษณะ และบุคลิกเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ ไก่ชนตัวใดมีบุคลิกลักษณะดี ไก่ตัวนั้นก็มักจะเก่งเป็นส่วนมาก การดูบุคลิกลักษณะไก่ชนที่เก่งมีส่วนประกอบหลายอย่าง 1. ใบหน้าเล็ก คางรัด 2. หงอน (หงอนบางกลางหงอนสูง) (หงอนหิน) 3. ปากเป็นร่องน้ำสองข้างลึก (ปากสีเดียวกับขา) 4. นัยน์ตาดำเล็ก ตาขาวมีสีขาว (ตาปลาหมอตาย) 5. สีของขน 6. สร้อยคอต้องยาวติดต่อสร้อยกลางหลัง 7. ปากใหญ่ยาว 8. คอใหญ่และกระดูกปล้องคอถี่ ๆ 9. หางยาวแข็ง 10. กระดูกหน้าอกใหญ่ ยาว 11. แข้งเล็ก แห้ง ร่องเกล็ดแข้งลึก และกลม เกล็ดแข้งใส เหมือนเล็บมือ 12. นิ้วเล็กยาว เล็บยาว 13. เม็ดข้าวสารนูนเวลาใช้มือลูบจะคายมือ 14.โคนหางใหญ่ 15.อุ้งเท้าบาง แคร่หลังใหญ่ 16. เส้นขาใหญ่ การดูเกล็ดแข้ง การดูเกล็ดแข้งก็เหมือนการดูลายมือคน เกล็ดแข้งตามตัวอย่างนี้ มิใช่ว่าไก่ที่มีแข้งแบบนี้แล้วจะไม่แพ้ใคร ลักษณะของการแพ้นั้นมีอยู่หลายวิธี คือ 1. ไก่ไม่สมบูรณ์หมายถึง เจ็บป่วยโดยที่เราไม่รู้ เรานำไปชนก็มักจะแพ้ 2. เปรียบเสียเปรียบคู่ต่อสู้ คือเล็กกว่าบ้าง ต่ำกว่าบ้างเป็นเหตุทำให้แพ้ได้ 3. ผิดเชิง ไก่บางตัวชอบตีไก่ตั้ง เวลาชนไปเจอไก่ลงตีไม่ได้ก็แพ้ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการดูเกล็ดแข้งจึงจำเป็นที่เราจะต้องรู้ไว้บ้าง แข้งตามตัวอย่างนี้เป็นส่วน ประกอบเวลาท่านจะไปหาไก่ถ้ามีเกล็ดแบบนี้แล้ว ท่านทดลองปล้ำดูพอใจแล้วค่อยเอา ถ้าไก่สมบูรณ์ ชนไม่เสียเปรียบ รับรองว่าชนะมากกว่าแพ้ แต่ว่ารู้สึกว่าจะหายากสักหน่อย สายพันธุ์ไก่พม่า
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น