การเลี้ยงไก่พม่า




เทคนิคการเลี้ยงไก่สายเลือดพม่านั้น เป็น ที่ยอมรับกันในทุกวันนี้ว่า ไก่ที่เลี้ยงออกชนกันตามสนามต่างๆ ทั่ว ประเทศ เป็นไก่ลูกผสมและมีสายเลือดไก่พม่าเกิน 50 %ด้วยกัน ส่วนจะมีเลือดพม่ามากแค่ไหนนั้น บ้างน้อยบ้างมากก็แล้วแต่สูตรของใครของมันว่ากันไป บางคนก็มีสายเลือดพม่าเกิน 50%ขึ้นไปซึ่งส่วนมากจะเก่ง บางคนต่ำกว่า 50 %ลงมา การเลี้ยงไก่พม่าบางตัวก็ดูไม่รู้ว่าเป็นไก่ไทยแท้หรือลูกผสมกันแน่ ไก่พม่าหรือไก่สายเลือดพม่าเดิมทีก็เล่นกันทางภาคเหนือของประเทศ ไทยซะเป็นส่วนใหญ่ เท่าที่ผมรู้เขาเลี้ยงกันไม่นาน ปล้ำ 2-3 ครั้งก็นำออกชนกันแล้ว ไม่ปล้ำมากอันเพราะจะทำให้ไก่ซ้ำ เหมือนการเลี้ยงไก่ทางภาคกลาง กว่าจะออกชนต้องปล้ำไม่น้อยกว่า 8-9 อันขึ้น การเลี้ยงไก่พม่าทางภาคเหนือเขาเลี้ยงกันไม่นานก็ออกชน กะให้แข็งในสังเวียน พอตีไปได้1-2 เที่ยว ไก่ก็เริ่มแข็งและตีราคาแพงได้ ดังนั้นการเลี้ยงไก่พม่าหนุ่มๆ จึงมีสถิติชนะหลายไฟท์ติดต่อกัน เท่า ที่สอบถามคนเลี้ยงไก่พม่าดู เขาบอกว่าถ้าเลี้ยงนานหรือปล้ำมากมันจะ กรอบ ยิ่งฟิตซ้อมหนักจะทำให้ เนื้อตัวของมันตึง ไม่ค่อยตีไก่ ซึ่งตอนแรกๆ ผมก็ไม่เชื่อ แต่จากการเลี้ยงไก่พม่ามาหลายตัว ปรากฏว่าไก่พม่า ตัวที่มีฝีตีนดีๆ พอฟิตจัดเข้ามันจะไม่ค่อยตีไก่ พอปล่อยให้เดินกรง เล่นฝุ่นเล่นดิน จับมาปล้ำใหม่ ปรากฏว่ากลับ ตีดีเหมือนเดิม ซึ่งผมได้ทดลองหลายครั้งหลายตัวก็มีผลคล้ายกัน ดังนั้นเทคนิคการเลี้ยงไก่พม่า ควรทำดังนี้
1. การออกกำลังกาย ควรให้ปฏิบัติดังนี้ - บินกล่อง - วิ่งสุ่ม - ปล่อยกรงกว้างๆ และมีคอนให้บิน แต่อย่าให้สูงมากนัก
2. การลงนวม ต้องดูนิสัยไก่ บางตัวไม่ชอบและไม่ควรลงนวมบ่อย ให้เหมาะสมควร 7-10 วันต่อครั้ง
3. การล่อ ต้องดูนิสัยไก่ หากไม่จำเป็นจริงๆ เช่นออกกำลังโดยวิธีอื่นไม่เอา จึงค่อยใช้วิธีล่อ เพราะไก่พม่า ไม่ชอบให้คู่ต่อสู้อยู่สูงกว่า
4. การลงขมิ้น หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรลง อาจจะลงครั้งแรกทั้งตัวสัก 1 ครั้ง ก็น่าจะพอ หลังจากนั้น หากยังอยากลงก็ควรทาเฉพาะใบหน้าและหน้าอกก็พอ นอกจากนี้มีข้อควรจำสำหรับการเลี้ยงไก่พม่า หรือไก่ที่มีสายเลือดพม่าตั้งแต่ 50 % ขึ้นไปคือ 1. อย่าปล้ำหรือลงนวมกับคู่ต่อสู้ที่เป็นไก่ถ่าย เพราะหากมันถูกตีเจ็บมันจะเข็ดและพาลดีดไก่ไปเลย 2. อย่าปล้ำหรือซ้อมคู่มากเกินไป 5-6 ยก ก็น่าจะพอ โดยครั้งแรกหาคู่ต่อสู้ใหม่ๆ เหมือนกัน ผิวพรรณดีกว่า อย่าหาญตี มิฉะนั้นอาจต้องมานั่งเสียใจ 3. ไก่พม่า ถ้าหัวปีกเริ่มโรย หรือขนปีกเคลื่อนขยายหรือเริ่มถ่าย หรือขนหมดมัน ไม่ควรนำออกตี เพราะมันจะอยู่ในช่วงเริ่มหลุดถ่าย ใจน้อย และหนีง่าย
4. ไก่พม่า เวลาซ้อมหากเจอคู่ต่อสู้ตีตัว ตีเข้าหน้าอุดสามเหลี่ยมและหนอกคอ ควรรีบจับยอม มิฉะนั้นคราวต่อไปมันจะเข็ดและดีดไก่ เพราะแผลฝาก
5. การเล่นไก่พม่า ควรเล่นในช่วงที่มันกำลังสดและมีอายุชนขวบแล้วดีที่สุด เพราะจิตใจมันจะ มั่นคงกว่าตอนที่เป็นหนุ่ม 8-9 เดือน
ไก่พม่าหลักๆก็มีเท่านี้แหละครับ






ลักษณะไก่พม่า

เป็นไก่ถ่าย เพราะหากมันถูกตีเจ็บมันจะเข็ดและพาลดีดไก่ไปเลย 2. อย่าปล้ำหรือซ้อมคู่มากเกินไป 5-6 ยก ก็น่าจะพอ โดยครั้งแรกหาคู่ต่อสู้ใหม่ๆ เหมือนกัน ผิวพรรณดีกว่า อย่าหาญตี มิฉะนั้นอาจต้องมานั่งเสียใจ 3. ไก่พม่า ถ้าหัวปีกเริ่มโรย หรือขนปีกเคลื่อนขยายหรือเริ่มถ่าย หรือขนหมดมัน ไม่ควรนำออกตี เพราะมันจะอยู่ในช่วงเริ่มหลุดถ่าย ใจน้อย และหนีง่าย
4. ไก่พม่า เวลาซ้อมหากเจอคู่ต่อสู้ตีตัว ตีเข้าหน้าอุดสามเหลี่ยมและหนอกคอ ควรรีบจับยอม มิฉะนั้นคราวต่อไปมันจะเข็ดและดีดไก่ เพราะแผลฝาก
5. การเล่นไก่พม่า ควรเล่นในช่วงที่มันกำลังสดและมีอายุชนขวบแล้วดีที่สุด เพราะจิตใจมันจะ มั่นคงกว่าตอนที่เป็นหนุ่ม 8-9 เดือน
ไก่พม่าหลักๆก็มีเท่านี้แหละครับ
เป็นไก่ถ่าย เพราะหากมันถูกตีเจ็บมันจะเข็ดและพาลดีดไก่ไปเลย 2. อย่าปล้ำหรือซ้อมคู่มากเกินไป 5-6 ยก ก็น่าจะพอ โดยครั้งแรกหาคู่ต่อสู้ใหม่ๆ เหมือนกัน ผิวพรรณดีกว่า อย่าหาญตี มิฉะนั้นอาจต้องมานั่งเสียใจ 3. ไก่พม่า ถ้าหัวปีกเริ่มโรย หรือขนปีกเคลื่อนขยายหรือเริ่มถ่าย หรือขนหมดมัน ไม่ควรนำออกตี เพราะมันจะอยู่ในช่วงเริ่มหลุดถ่าย ใจน้อย และหนีง่าย
4. ไก่พม่า เวลาซ้อมหากเจอคู่ต่อสู้ตีตัว ตีเข้าหน้าอุดสามเหลี่ยมและหนอกคอ ควรรีบจับยอม มิฉะนั้นคราวต่อไปมันจะเข็ดและดีดไก่ เพราะแผลฝาก
5. การเล่นไก่พม่า ควรเล่นในช่วงที่มันกำลังสดและมีอายุชนขวบแล้วดีที่สุด เพราะจิตใจมันจะ มั่นคงกว่าตอนที่เป็นหนุ่ม 8-9 เดือน
ไก่พม่าหลักๆก็มีเท่านี้แหละครับ

            เกล็ดแข้ง
        ตามปกติลักษณะ และบุคลิกเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ ไก่ชนตัวใดมีบุคลิกลักษณะดี ไก่ตัวนั้นก็มักจะเก่งเป็นส่วนมาก การดูบุคลิกลักษณะไก่ชนที่เก่งมีส่วนประกอบหลายอย่าง
1. ใบหน้าเล็ก คางรัด                                          
2. หงอน (หงอนบางกลางหงอนสูง) (หงอนหิน)
3. ปากเป็นร่องน้ำสองข้างลึก (ปากสีเดียวกับขา)  
4. นัยน์ตาดำเล็ก ตาขาวมีสีขาว (ตาปลาหมอตาย)
5. สีของขน                                                          
6. สร้อยคอต้องยาวติดต่อสร้อยกลางหลัง
7. ปากใหญ่ยาว                                                  
8. คอใหญ่และกระดูกปล้องคอถี่ ๆ
9. หางยาวแข็ง                                            
10. กระดูกหน้าอกใหญ่ ยาว
11. แข้งเล็ก แห้ง ร่องเกล็ดแข้งลึก และกลม เกล็ดแข้งใส เหมือนเล็บมือ
12. นิ้วเล็กยาว เล็บยาว
13. เม็ดข้าวสารนูนเวลาใช้มือลูบจะคายมือ      
14.โคนหางใหญ่
15.อุ้งเท้าบาง แคร่หลังใหญ่                               
16. เส้นขาใหญ่
                        การดูเกล็ดแข้ง
                การดูเกล็ดแข้งก็เหมือนการดูลายมือคน เกล็ดแข้งตามตัวอย่างนี้ มิใช่ว่าไก่ที่มีแข้งแบบนี้แล้วจะไม่แพ้ใคร ลักษณะของการแพ้นั้นมีอยู่หลายวิธี คือ
1.             ไก่ไม่สมบูรณ์หมายถึง เจ็บป่วยโดยที่เราไม่รู้ เรานำไปชนก็มักจะแพ้
2.             เปรียบเสียเปรียบคู่ต่อสู้ คือเล็กกว่าบ้าง ต่ำกว่าบ้างเป็นเหตุทำให้แพ้ได้
3.             ผิดเชิง ไก่บางตัวชอบตีไก่ตั้ง เวลาชนไปเจอไก่ลงตีไม่ได้ก็แพ้ได้เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นการดูเกล็ดแข้งจึงจำเป็นที่เราจะต้องรู้ไว้บ้าง แข้งตามตัวอย่างนี้เป็นส่วน ประกอบเวลาท่านจะไปหาไก่ถ้ามีเกล็ดแบบนี้แล้ว ท่านทดลองปล้ำดูพอใจแล้วค่อยเอา ถ้าไก่สมบูรณ์ ชนไม่เสียเปรียบ รับรองว่าชนะมากกว่าแพ้ แต่ว่ารู้สึกว่าจะหายากสักหน่อย








สายพันธุ์ไก่พม่า



      พม่าง่อน
      พม่าง่อนเป็นไก่สองสายเลือดที่มีการพัฒนามายาวนานกว่ารูปแบบอื่น ๆ จนในปัจจุบันอาจจะกล่าวได้ว่าพม่าลูกผสมที่พัฒนากันหลากหลายล้วนเกิดจากพื้นฐานพม่าง่อนทั้งสิ้น พม่าง่อนมีจุดเด่นอย่างไร เป็นคำถามที่ถามกันไม่รู้จักจบสิ้น
วันนี้เลยมาสรุปย้ำอีกทีว่าเขาดีอย่างไร
   1. กระดูกดีเยี่ยมครับ ได้โครงสร้างมาดีเยี่ยมดูแข็งแรงขึ้นเยอะ ถ้าได้เลือดง่อน 25 พม่า 75 ดูโครงสร้างดีมาก ๆ  ถ้าได้เลือดพม่าสัก 87.5 ดูจะออกหน้าตาสีสรรและน้ำขนเป็นพม่าเยอะมาก ลีลาก็ค่อนข้างดี ลูกตีก็เผ็ดจี๊ดดีแท้ครับ ดังนั้นพม่า 87.5ง่อน 12.5 จึงถือวาเป็นพม่าง่อนในอุดมคติครับ
     2. การเลี้ยงดูก็จะง่ายขึ้นด้วยครับ เพราะสามารถนำมาเลี้ยงได้ตั้งแต่อายุยังน้อย 9 เดือนก็ครอบสุ่มได้แล้ว เลี้ยงก็แข็งแรงง่าย ยืนระยะได้ดี ทนแรงเสียดสีได้ดี สำคัญที่สุดต้องัดสายพันธุ์ง่อท่มีน้ำอดน้ำทนให้มาก ๆ  เพราะง่อนบางสายขี้ใจน้อยเหมือนกันพอเอามาใส่พม่าบางสายที่ขี้ใจน้อยยิ่งไปกันใหญ่
     3. ลีลาเด่นที่พัฒนาได้มักจะเป็นโยกถอดถอย หรือหนุน ๆ ถอด ๆ ตีเจ็บ ถ้าเป็นม้าล่อมักจะเป็นม้าล่อทางยาวครับ ยางตัวชอบโดดสังเวียน  บางทีขนแรกไม่โดดขนสองโดดเฉยเลย บางตัวขนแรกโดดขนสองไม่โดด ทางแก้คือเอามันกลับไปผสมสายตัวเมียม้าล่ออีกครับ  จะมีการล่อเนียนขึ้นในชั้นลูก สำคัญให้หาตัวเมียสายม้าล่อสั้นไว้เป็นหลัก หากได้พ่อพม่าง่อนล่อยาวใส่เข้าไปมักจะไม่ผิดพลาดจะล่อสวยงาม
     4. อายุพร้อมชนสำหรับไก่ลูกผสมสองสายพม่าง่อนคืออายุเลยขวบครับจะได้ เพราะกระดูกพม่าและกระดูกง่อนจะให้แข็งแกร่งจริงๆ ก็ต้องรอ12 เดือนขึ้นครับพอจะชนทางยาวได้ ถ้าได้ลูกแหลมจะดีที่สุดครับถือว่าสุดยอด
     5. พม่าที่เน้นมาทำไก่สองสายควรเน้นที่น้ำขนดี ๆ นะครับเอาประเภทปีกยาว ๆ เลยก้นไป สร้อยคอปะบ่า ระย้ายาว ๆ จะดี เพราะง่อนขนน้อยเมื่อนำมาพัฒนาจะได้แก้ไขข้อบกพร่องของง่อนได้ครับ

      พม่ารำวง
       พม่ารำวงเป็นไก่ที่มีสไตล์เมื่อคู่ต่อสู้เดินเข้าหา จะวิ่งออกไปสั้นๆ วนซ้ายไป วนขวาไปมาแล้วกลับมาตบ แล้วเต๊ะแล้วตีด้วยแข้งหน้า พม่ารำวงจะเป็นไก่ที่ไม่ยอมให้คู่ต่อสู้ได้เข้าใกล้ตัวเลย จะวิ่งหนีออกประมาณ 3-4 ก้าวแล้วจะกลับมาตบ มาเต๊ะ มาตี จนคู่ต่อสู้เข้าไม่ถึงตัว เมื่อเจอไก่เชิงไล่ขี่คอ เมื่อไก่เชิงขึ้นไล่ประกบคอ จะออกวิ่งไปข้างหน้าเพื่อหาจังหวะตี คือไม่มีคอให้กอด ไม่มีคอให้ขี่ หรือเมื่อไก่เชิงมุดมัดเข้าปีก จะวิ่งออกแล้วกลับมาตบ ไม่มีปีกให้เข้าอีก
ไก่ประเภทนี้เก่ง ไอคิวดี ฉลาด แต่มักจะหลงทางคู่ต่อสู้ที่เป็นพม่า100 ที่ไม่ยอมเข้าเกี้ยว หรือเดินเข้าหาด้วยกัน ไก่พม่ารำวงส่วนมากจะเป็นไก่ที่เก่งเมื่อคู่ต่อสู้เดินเข้าหา แต่มักจะเสียเชิงชนกับไก่ที่ไม่ยอมเดินเข้าหา เช่นพม่าลูก 100 ไม่ยอมเข้าเกี้ยวเลย พม่าพวกนี้เก่งพม่าด้วยกัน จะหลอกล่อให้คู่ต่อสู้เดินเข้าหา ยั่วยุไปเรื่อยๆ ตัวเก่งๆลูกล่อลูกชนดีๆ ปากจะจิกดินคุ้ยเขี่ยยั่วยุคู่ต่อสู้ จนคู่ต่อสู้โมโห เมื่อคู่ต่อสู้โมโหจะเดินเข้าหา และจะเป็นตัวออกอาวุธให้คู่ต่อสู้หลงทาง
สำหรับพม่ารำวงถ้าตีไก่เชิง หรือไก่ที่เดินเข้าหาจะเป็นตัวโชว์ลีลาเพลงแข้งซะเป็นส่วนใหญ่ สำหรับการเพาะพัฒนาพม่ารำวงที่ผมจะกล่าวถึงนี้ ผมจะพูดถึงการเพาะพัฒนาให้ไก่พม่ารำวงที่สามารถเพาะพัฒนาออกมาแล้วสามารถ ที่ตีได้ทั้งไก่เชิง และไก่พม่าที่ไม่ยอมเข้าเกี้ยวเลย สำหรับแนวทางการเพาะพัฒนาก็มีวิธีการเรียนรัดดังนี้ครับ ก่อนอื่นต้องหาพ่อพันธ์ที่เป็นพม่ารำวงที่มีไอคิวดี ออกวิ่งวนซ้ายขวา แล้วตี และที่สำคัญต้องออกแข้งถี่มากๆ ถึงจะดี ไม่ใช่ได้แต่ลีลา วิ่งวนไปมา วิ่งสั้นสลับยาว แล้วค่อยออกอาวุธ

เราจะคัดพ่อพันธ์ที่ออกแข้งถี่ ลีลาดี วิ่งวนซ้าย ขวา ออกแข้งแม่นยำ แล้วหาแม่พันธ์ที่ตัวคู่ของมันผู้ชนถึงในสนามมาแล้ว และลีลา ลีลาที่ต้องการคือเดินเสริฟแข้งหน้า หรือเดินกระแทกแล้วซิ่งออกข้าง เต๊ะทีวิ่งออกสไลท์ข้างซ้ายที สไลท์ขวาที และที่สำคัญต้องเป็นไก่ที่ตีชนะไก่พม่าที่ถอย และสายพันธ์ที่เราจะพัฒนาต้องเป็นไก่พม่าเดินเสริฟ แล้วนำมาเพาะกับพ่อพันธ์พม่ารำวง ที่เราเตรียมไว้ เพื่อให้ได้สายพันธ์ที่ตีได้ทั้ง ไก่เดินเข้าหาและไก่ที่ถอยหลังตี 

พม่าแม่สะเรียง
       ในวงการไก่ชนไทยทุกวันนี้ คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า ไก่ชนตัวเล็กสีสาลักษณะแปลกตากำลังมาแรงแบบ แบบชนิดที่ว่าฉุดไม่อยู่ และถ้าถามต่อไปอีกว่าไก่ชนดังกล่าวเป็นไก่สายพันธุ์อะไร คงหาคนในวงการไก่ชนที่ไม่ประสีประสาพอที่จะตอบไม่ได้ว่าเป็นไก่ชนสายพันธุ์พม่าแม่สะเรียงได้เป็นแน่ หรือ น้อยคนนักที่จะตอบไม่ได้ และในเมื่อผลปรากฏที่ชัดเจนว่าไก่ชนสายพันธุ์พม่าแม่สะเรียงกำลังมาแรง มันเป็นเพราะอะไรทำไมถึงได้เป็นเช่นนั้นในเมื่อมันมีผลที่ปรากฏชัดเจนแล้วมันก็ที่จะต้องมีสาเหตุที่ทำให้เกิดผลนั้น ๆ   และสาเหตุที่ทำให้ไก่พม่าแรงแรงจนฉุดไม่อยู่นั้นคงจะหนีไม่พ้น แข้งหน้าที่จัดจ้าน ลูกตีที่เฉียบขาดแม่นยำและดุดัน ประกอบกับลีลาอันมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ว่าด้วย โยกล่าง ลอด ถอด ถอย สาดแข้งเปล่า อย่างแน่นอน และเมื่อคุณอยากที่จะเป็นเจ้าของไก่ชนสายพันธุ์พม่าแม่สะเรียงเก่ง ๆ สักตัวไม่ว่าจะเป็นไก่ชนพม่าแม่สะเรียงเลือดร้อย หรือ แม้แต่ลูกผสมพม่าแม่สะเรียง + เมือง(ไทย) พม่าแม่สะเรียง + พม่า หรือ แม้กระทั่ง ลูกผสมพม่าแม่สะเรียง + ง่อน คุณจะมีวิธีการสังเกตอย่างไร หรือมีหลักในการเลือกซื้ออย่างไร ดังนั้นก็จะให้ความกระจ่างแก่คุณ เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ยังขาดหลักการหรือวิธีการในการสังเกตไก่ชนสายพันธุ์นี้อยู่ หรือ มีหลักการสังเกตอยู่แล้วก็อาจจะเพิ่มเติมและเสริมให้ในส่วนที่ยังขาดหายไปได้ หวังว่าคงจะมีประโยชน์แก่ผู้ที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการสังเกตไก่ชนสายพันธุ์พม่าแม่สะเรียงไม่มากก็น้อย และทั้งหมดนี้จะเป็นหลักการคร่าว ๆ ในการสังเกตไก่พม่าแม่สะเรียง ดังนั้นเชิญติดตาม และทำความรักกับไก่ชนสายพันธุ์นี้กันได้เลยไก่พม่าเป็นไก่แม่สะเรียงที่ออกไปทางแปลกมากกว่าสวยงาม ทั้งกิริยาท่าทางรวมไปถึงลักษณะนิสัย ซึ่งแม้ในบางครั้งเลี้ยงหรือคลุกคลีกับคนมาตั้งนานแต่ก็ยังปรากฎอาการเปรียวให้เห็นอยู่เสมอ ๆ หรือ ตกใจอะไรง่าย ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณระวังภัยของไก่ป่าที่ยังไม่จางหายไปในสายเลือด ดังนั้นเมื่อคุณจะซื้อไก่พม่าแม่สะเรียงสักตัวคุณจะต้องทำใจไว้ก่อนว่าคุณอาจจะได้ไก่ไม่สวยงามตามตำราโบราณ ประมาณว่า หงอนรัด ตาปลาหมอตาย จับขาดยาวสองท่อน หรือ หางยาวพุ่งเหมือนท่อนฟาง ฯลฯ แต่กลับได้ไก่ทีมี “หงอนหมูบและจับยานเป็นสามเหลี่ยม หรือแม้กระทั่งคุณอาจจะต้องวิ่งจับไก่ของคุณเมื่อไก่ของคุณหลุดในสนามชนไก่ และในบางครั้งคุณอาจจะต้องลำบากเวลาเข้าปากไก่คุณเวลาให้น้ำระหว่างพักยกก็เป็นได้คุณยังอยากจะมีไก่พม่าแม่สะเรียงไว้ในครอบครองอีกหรือไม่ถ้ายังมีจิตใจที่แน่วแน่ก็ขอเชิญอ่านต่อได้เลยครับ
    ลักษณะสรีระไก่พม่าที่เก่งกาจ
        หงอน – หงอนหมูบเท่านั้น เพราะเป็นหงอน “ดังเดิม” เป็นหงอนที่ “สร้างชื่อ” และเป็นเอกลักษณะประจำสายพันธ์ที่ชัดเจนที่สุด ของไก่สายพันธุ์นี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งไก่พม่าแม่สะเรียงมีหงอนอยู่หลายลักษณะทั้งหงอนนาคราช ช่อเล็ก และมีหลายขนาดไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือว่าขนาดใหญ่ อย่าเลือกไก่พม่าที่มีหงอนเหมือนไก่ไทย เพราะอาจจะไม่เก่งเท่าที่ควร เนื่องจากสายเลือดที่มีอยู่ในตัวเหลือน้อยเต็มทีแล้ว เพราะไก่พม่าแม่สะเรียงความเก่งกาจขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสายเลือด ยิ่งเหลือน้อยเท่าไหร่ ยิ่งเก่งน้อยลงเท่านั้น
      หน้าตา – ไก่พม่าแม่สะเรียงที่เก่งกาจส่วนมากจะมีรูปหน้าที่เรียวเล็ก คางรัด แววตาดุดันแสดงให้เห็นถึงความฉลาดและความเจ้าเล่ห์ภายในตัว ใบหน้าจะบางไม่หนาแสดงให้เห็นว่าไม่ค่อยเจ็บตัวเท่าไหร่ในการปล้ำคัดเพราะจะเป็นฝ่ายใช้ลีลาหลอกตี ดักตีอยู่ตัวเดียว บางตัวชนะมา 3 ไฟล์ ขนอุยที่หน้ายังอยู่ครบ ขนหัวยังไม่ยับ ซึ่งปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ ส่วนไก่พม่าแม่สะเรียงที่ไม่ค่อยเก่งจะมีใบหน้าที่หนาขนหัวยับเยิน หรือ หัวโล้นเลยก็ว่าได้ ขนาดที่ยังไม่ได้ชนเลยสักไฟล์(ยกเว้นเป็นขี้กลาก) แสดงว่าเป็นไก่ที่หลบเลี่ยงไม่เก่ง ไม่ค่อยฉลาด  ลีลาไม่ค่อยดี  หรือ เป็นไก่ที่ช้าเกินไป
      ลำคอ – ไก่พม่าแม่สะเรียงตัวที่เก่งๆ ลำคอจะไม่ค่อยใหญ่ อาจจะเล็กๆ เหมือนไก่ที่ปล้ำมาได้ไม่กี่อัน เพราะมีลีลา โยกหัวล่าง แต่แท้ที่จริงแล้วอาจจะชนะมาหลายไฟล์ก็เป็นได้เพราะ ไก่พม่าตัวที่เก่งจริง ๆ ชนในแต่ละครั้งแทบไม่เจ็บตัวเลย สวนไก่พม่าแม่สะเรียงที่มีลำคอหนาใหญ่และแข็งแกร่งนั้นแสดงว่าเป็นไก่พม่าที่โง่ ไว้หัวสูง โด่ตี ไม่ค่อยฉลาดสักเท่าไหร่ จึงได้รับแข้งเป็นส่วนมากเลยทำให้ลำคอหนาใหญ่ ไก่พม่าแม่สะเรียงที่มีลักษณะดังกล่าวเพราะอาจจะไม่เก่งเท่าทีควรยกเว้นไก่ชนลูกผสมพม่าแม่สะเรียง + ง่อน เพราะจะมีลำคอที่แข็งแกร่งอยู่แล้วไม่ว่าจะเก่งหรือไม่เก่งก็ตามเนื่องจากมีเลือดของไก่ชนสายพันธุ์ไซ่ง่อนผสมอยู่ จึงมีลักษณะดังกล่าว
       ไหล่ – ไก่พม่าแม่สะเรียงไม่ว่าจะเป็นลูกร้อยหรือลูกผสมควรจะมีไหล่ที่เล็กซึ่งบ่งบอกว่าเป็นไก่ที่มีความว่องไวปราดเปรียวที่สำคัญไก่พม่าแม่สะเรียงไม่จำเป็นต้องไหล่ใหญ่เหมือนไก่ชนสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ต้องเอาไหล่เบียดกันเพื่อทำเชิงบังคับตีคู่ต่อสู้และไก่พม่าแม่สะเรียงที่มีไหล่ที่ใหญ่ส่วนมากจะไม่ค่อยเก่งเนื่องจากเชื่องช้า หรือ แม้กระทั่งรับสายเลือดไก่ชนสายพันธุ์อื่นมาเยอะเกินไปลีลาเลยอาจจะไม่ค่อยพลิ้วเท่าที่ควร หรือ ในบางครั้งอาจจะไม่มีลีลาเลยก็เป็นได้
      ปีก – ไก่พม่าแม่สะเรียงไม่ว่าจะเป็นเลือดร้อย หรือ ลูกผสม ควรที่จะมีปีกที่ใหญ่และหนาซึ่งแสดงว่าเป็นไก่ที่บินสูง บิน แรง และใช้ปีกทรงตัวได้ดี สวนไก่พม่าแม่สะเรียงที่มีปีกเล็กหรือปีกบางส่วนมากจะไม่ค่อยเก่ง หรือบางครั้งอาจจะเก่งแต่ก็เก่งได้ไม่นาน ดังนั้นควรจะเลือกซื้อตัวที่มีปีกใหญ่และหนาจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

     หลัง – ถ้าเป็นไก่พม่าแม่สะเรียงเลือดร้อยจะไม่มีหลังที่มีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเหมือนไม้กระดานเด็ดขาดถ้าคนขายไก่บอกว่าไก่ที่มีลักษณะดังกล่าวเป็นไก่ชนพม่าแม่สะเรียงเลือดร้อยแล้วละก็แสดงว่าต้องมีอะไรชอบมาพากลแล้ว เพราะไก่พม่าแม่สะเรียงตามหลักสรีระที่แท้จริงแล้วจะมีหลังนูนเหมือนหลังเต่า ส่วนไก่พม่าลูกผสมอาจจะมีหลังเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือหลังนูนเหมือนหลังเต่าก็เป็นได้ซึ่งลักษณะของหลังขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นของเลือดไก่พม่าแม่สะเรียงที่มีอยู่ในตัวเป็นสำคัญ
      หาง – ไก่พม่าแม่สะเรียงตัวที่เก่งๆ หางจะไม่ยาวเท่าไหร่ และที่สำคัญหางจะไม่พุ่งเหมือนฟ่อนข้าวอย่างแน่นอน เพราะมันไม่เข้ากับลีลา ซึงในบางครั้งอาจจะต้องตัดหางที่ยาวเกินไปเพราะในขณะที่ออกลีลาถอย สาด อาจจะเหยียบโดนหางตัวเองแล้วเสียจังหวะและไก่พม่าแม่สะเรียงส่วนมากจะมีหางที่ตั้ง(หางกระดก) และหางจะเป็นสีดำปลอด ไม่มีหมก หรือแม้กระทั่งหางขาวทั้งสิ้นเพราะส่วนมากไก่ที่มีหางหมก หรือ มีหางขาว บางครั้งอาจจะมีสีสาเหมือนไก่พม่าแต่แท้ที่จริงแล้วอาจจะเป็นไก่เชิงหรือ มีลีลาอย่างอื่นที่ไม่ใช่ลีลาแบบไก่พม่าก็เป็นได้ เช่น เหล่าป่าก๋อยบางตัวที่จังหวัดลำพูนสีสาเหมือนไก่พม่า แต่มีหางขาว คาบจัดยิ่งกว่า เหล่าป่าก๋อยสีเหลืองหางขาวบางตัวอีกด้วยซ้ำทำให้ยากต่อการอ่านเชิงยิ่งนัก 
      อก – ไก่พม่าแม่สะเรียงส่วนมากแล้วจะจับไม่ค่อยสวยเนื่องจากอกยาน มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ซึ่งการที่ไก่พม่ามีลักษณะดังกล่าวเพราะมีเครื่องในหรืออวัยวะภายในที่ใหญ่นั่นเอง จึงทำให้ไก่พม่ามีก๊อกสอง ก๊อกสามให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ซึ่งการที่ไก่พม่ามีอกที่ยานนี้ถือเป็นอุปสรรคในการเปรียบตีอยู่พอสมควร แต่ไก่พม่าแม่สะเรียงที่จับสวยขาดสองท่อนนั้นก็มีเหมือนกัน ซึ่ง ส่วนมากจะมีในไก่พม่าแม่สะเรียงที่เป็นไก่ลูกผสมมากกว่าพม่าแม่สะเรียงเลือดร้อย

     ปั้นขา – ไก่พม่าแม่สะเรียงที่เก่ง ๆ ส่วนมากจะมีปั้นขาที่ใหญ่แข็งแรงซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นไก่ที่มีลูกตีที่หนักหน่วงละรุนแรง ยิ่งในลูกผสมพม่าแม่สะเรียง + ง่อน จะมีปั้นขาที่ใหญ่และแข็งแรงมากเป็นพิเศษ ข้อสังเกต ไก่พม่าแม่สะเรียงเลือดร้อยจะมีขนปกคลุมปั้นขาอยู่ตลอดยกเว้นตัวที่ผ่านไฟล์มาหลายไฟล์ขนอาจจะหลุดไปเล็กน้อย แต่ยังไงปั้นขาก็จะเป็นสีแดงสดปราศจากขนเหมือนไก่ชนไซ่ง่อนแน่นอนถึงแม้จะเป็นไก่ลูกผสมพม่าแม่สะเรียง + ง่อนก็ตาม  
        แข้งและเกล็ด – ไก่พม่าแม่สะเรียงมีแข้งเล็กและกลม(ท้องแข้งเต็ม) ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป เพราะไก่พม่าที่มีลักษณะดังกล่าวจะเป็นไก่ที่มีฝีตีนจัดจ้าน และตีเจ็บพอสมควร ไก่พม่าแม่สะเรียงที่แข้งใหญ่หรือแข้งยาวเกินไปจะเป็นไก่ที่ตีไม่แม่น และดูเก้งก้างไม่สมส่วน และไก่พม่าที่มีท้องแข้งเป็นร่องเป็นไก่ที่มีลักษณะด้อย ที่ สำคัญเป็นจะไก่ที่ไม่ค่อนรักเดิมพันเท่าใดนัก(ความเชื่อส่วนบุคคล) ส่วนเกล็ดของไก่พม่าแม่สะเรียงนั้น ไม่ควรไปยึดติดอะไรมาก อยากให้ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคลดีกว่าเพราะไก่พม่าแม่สะเรียงที่เล่นกันอยู่ทุกวันนี้จะเน้นที่ลูกตี กับ ลีลา เป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่เน้นที่เกล็ด เรียกได้ว่าเน้นที่รูปธรรม มากกว่า นามธรรม

     เดือย – เดือยไก่พม่าแม่สะเรียงมีทุกสี ซึ่งเดือยนี้สำคัญมาก เพราะไก่พม่าแม่สะเรียงเป็นไก่ที่ใช้เดือยจัดอาวุธและที่สำคัญที่สุดของไก่พม่าแม่สะเรียงนั่นก็คือเดือย ไก่พม่าแม่สะเรียงเป็นไก่ที่มีเดือยที่มั่นคง ฐานใหญ่ และไม่ค่อยมีไก่ที่มีเดือยกราม เดือยไก่พม่าก็มีหลายลักษณะ  แต่ที่สำคัญที่สุดควรเลือกไก่พม่าที่มีเดือยชิดและขนานกับนิ้วก้อยมากที่สุด และมีลักษณะโค้งงอนขึ้นข้างบนเล็กน้อย ซึ่งทางภาคเหนือเรียกว่าเดือยขอ” ซึ่งลักษณะการแทงของเดือยที่มีลักษณะดังกล่าวจะขาดวิ่นแผลใหญ่ ซึ่งจะทำให้คู่ต่อสู้เจ็บปวด และ เสียเลือดมาก พอสมควร และที่สำคัญที่สุดสร้างความหนักใจให้มือน้ำฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมากในการทำแผล
       ตีนและเล็บ – ควรเลือกไก่พม่าที่มีตีนและเล็บยาวเรียว เลือกตัวที่มีนิ้วยาว ๆ แต่ที่สำคัญนิ้วควรที่จะไม่ใหญ่เพราะไก่พม่าที่มีนิ้วใหญ่จะเป็นไก่ที่ค่อนข้างช้า และลูกตีไม่ค่อยจัดจ้านเท่าใดนักไก่พม่าที่นิ้วเล็ก ๆ แต่ยาวเรียวอุ้งตีนบาง ๆ จะเป็นไก่ที่ฝีตีนจัดจ้านมาก ส่วนเล็ยยิ่งยาวเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้นเพราะไก่ที่มีเล็บยาวเป็นลักษณะของไก่ที่มีวาสนาดีไม่ว่าจะเป็นไก่ชนสายพันธุ์ไหนก็ตาม และไก่พม่าที่มีเล็บสั้นส่วนมากจะไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่ถึงแม้เก่งก็อาจจะเก่งได้ไม่นาน

ความคิดเห็น